ตรงข้ามร้านขนมจีนโกจ้อย ก็จะมีวัดจีนอยู่ เห้นว่าสวยงามดีก็ไปเดินเล่นถ่ายรูป เดินเพลิน ๆ ก็มีลุงเจ้าของศาลเจ้า
ลุง : เอ้า มาจากไหนกันล่ะ
พวกเรา : กรุงเทพครับ
ลุง : ให้อาหารปลาไหมล่ะ ?
พวกเรา : มีปลาด้วยหรอครับ ? (ลุงแอบมาหลอกขายอาหารปลาให้พวกเราเปล่าวะ คิดในใจ)
ลุงเดินมาพร้อมอาหารปลา 2 แก้วเต็ม ๆ
ลุง : เอ้า นี่อาหารปลา ในสระน้ำมีปลาสวย ๆ เยอะ
เฮ้ย ลุงไม่ได้ขอเก็บตังเราสักบาทว่ะ ให้อาหารปลามาให้เราไปดูปลากันแบบเพลิน ๆ
พวกเรา : ขอบคุณครับ ^^

สำหรับสระมรกต เนี่ยเดินจากจุดจ่ายค่าบำรุง ประมาณ เป็นสระน้ำร้อน น้ำใส น่าเล่นมาก ใครไปก็เตรียมกางเกงไปรอเปียกกันได้เลย ใครไม่อยากเล่นน้ำ พอเห็นความใสของน้ำอาจเปลี่ยนใจ พอเล่นกันจนสบายใจแล้วก็เดินเล่นต่อไปยังสระน้ำผุด เป็นจุดกำเนิดน้ำของสระมรกต จะมีน้ำผุดขึ้นมาเนื่องจากตรงจุดนั้นมีรอยแยกของเปลือกโลกอยู่ จึงมีน้ำผุด ปุ๋งๆ ขึ้นมา ที่นี่เองก็สวย น้ำเป็นสีน้ำเงินครามใส แต่ไม่อนุญาตให้ลงเล่นนาจา 🙂

 

ทางเดินจะมีให้เลือกสองทางใกล้ (ทางลูกรัง) กับไกล (ทางเดินศึกษาธรรมชาติ)

เส้นทางใกล้จะเป็นเยี่ยงนี้

เส้นทางไกลจะเป็นอย่างนี้

ก่อนถึงสระมรกตเราก็จะได้พบกับสระแก้ว น้ำใสเหมือนแก้วจริง ๆ ครับ

และแล้วเราก็มาถึงสระมรกตกันแล้วววว

เดินต่อเข้าไปอีกก็จะพบสระน้ำสีฟ้าสวยงามมาก มีฟองอากาศผุดขึ้นมาบุ๋ง ๆ ด้วย

เสร็จจากสระมรกตเรามาต่อกันที่ น้ำตกร้อน ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่แช่น้ำอุ่น จากสายน้ำแร่ที่เหมาะแก่การแช่ตัว อุณหภูมิพอเหมาะ เชื่อว่าสามารถบำบัดอาการไขข้ออักเสบ ปวดหลัง และเกี่ยวกับผิวหนังได้

โดยการมาเที่ยวทั้งสระมรกตและน้ำตกร้อนมีค่าธรรมเนียมเข้าชม คนไทย 20 บาท ทั้ง 2 ที่ฮะ

ต่อจากน้ำตกร้อนก็เย็นละฮะ เราก็บึ่งรถมาที่พักเราเลย เราเลือกนอนที่ ซีเชลล์ กระบี่ อยู่ตรงอ่าวน้ำเมาฮะ (โซนนี้เน้นความสงบครับไม่พลุกพล่านวุ่นวายเหมือนโซนอ่าวนาง) ที่พักราคาดีงามสบายกระเป๋า เหมาะแก่สาย Backpack อย่างเราๆ มีสระน้ำโคตรน่าโดดเล่น มีที่จอดรถสะดวกสบาย แถมมีอาหารเช้าให้ด้วยแหนะ คุ้มเกินคุ้มบอกเลย ห่างจากสนามบินกระบี่ประมาณ 20-25 นาที แนะนำเลยครัชใครไปเที่ยวที่นี่

ใครสนใจก็ลองคุยรายละเอียดดู เพจที่พัก: Krabi Seashell Resort

ก็ขอจบการเที่ยววันแรกของเราแค่นี้ก่อนไว้จะมาต่อในวันถัดๆ ไปนะจ๊ะ รับรองทะเลใสๆ รอพวกนายอยู่ อิอิ